Monday, August 25, 2014

หนทางการเข้าสู่ Tokyo Institute of Technology พร้อมทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (4)

หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จแล้ว เราก็รอกันไปครับ อาจจะรอนานหน่อย ก็ตื่นเต้นกดดันกันไป ระหว่างนี้ก็นั่ง Refresh Inbox รัว ๆ ว่าจะมีเมลล์เด้งเข้ามาเมื่อไหร่...

แล้ววันดีคืนดี ตอนเราเผลอ ๆ ก็จะมีเมลล์จากอาจารย์ที่ปรึกษาส่งมาแจ้งครับว่า "ติดแล้ว เฮ้ย ! แถมได้ทุนด้วย !" แต่นี่ก็ยังไม่ official ครับ รอไปอีกสักพักก็จะมีอีเมลล์ทางการส่งมาอีกอันนึงให้เรา Confirm ไปว่าหนูจะไปเรียนจริง ๆ นะ (มาถึงขนาดนี้คงจะแคนเซิลอะนะ - -*) (ขอแอบบอกไว้นิดนึงว่าแต่ละคนจะได้อีเมลล์ไม่พร้อมกันครับ ไม่รู้ทำไม อย่างตอนนั้นเพื่อนผมได้อีเมลล์ก่อนผมหลายวัน จนผมคิดว่าไม่ติดแล้ว TT)

หลังจากนั้นก็จะมีเอกสารส่งมาที่บ้านครับ ว่าเราสอบติดแล้ว และได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งตอนนั้นจำได้ว่าโคตรตื่นเต้นเลยครับ คือโทรถามแม่ตลอดว่าเอกสารมาถึงยัง ๆ จนมาถึงบ้าน แม่บอกเอกสารอยู่ตรงนั้นนะ เลยไปหยิบมา แม่ก็ถามว่าเอกสารอะไร (แม่ผมยังไม่รู้ว่าติดแล้ว) เลยนั่งแปลให้แม่ฟังทีละบรรทัด บอกว่านี่เค้ารับเข้าไปเรียนแล้ว ได้ทุนด้วย แม่นี่กอดผมละยิ้มใหญ่เลยครับ ^^ (วันรุ่งขึ้น เพื่อนบ้านและญาติ ๆ ในรัศมี 100 กิโลเมตรก็รู้ข่าวทั้งหมด ฮ่า ๆ) และก็จะมีเอกสารให้เราเซ็นและแสกนส่งกลับไปทางมหาลัยครับ เป็นอันเสร็จขั้นตอน...

ระหว่างนี้ทางมหาลัยเค้าก็จะไปเดินเรื่องเกี่ยวกับทุนการศึกษาให้เราครับ เราก็มีหน้าที่รอไปอย่างเดียว...

หลายเดือนผ่านไป... ก็จะมีอีเมลล์ติดต่อกลับมาอีกครั้ง รวมถึงเอกสารอีกชุดนึงส่งมาที่บ้านครับ เราก็ต้องเซ็นและส่งไปรษณีย์กลับไป รอบนี้ก็จะมีเอกสารทำวีซ่าต่าง ๆ นา ๆ มากมาย

หลังจากนี้มันก็จะมีพวกรายละเอียดยิบย่อย เช่นสมัครตั๋วเครื่องบิน แล้วก็จองหอพัก อะไรพวกนี้ครับ ซึ่งไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้วล่ะ ^^ เอาเป็นว่าผมขอจบบล๊อกโพสต์เรื่องนี้ไว้เท่านี้แล้วกัน ขอให้โชคดีทุกคนนะครับ ^^

_________________________________________

เว็บไซต์ที่แนะนำให้เข้าไปอ่านกัน

http://www.titech.ac.jp/english/graduate_school/international/graduate_program_a/
http://www.jref.com/forum/studying-japan-181/titech-igp-questions-48210/ (อันนี้เป็นอันที่มีประโยชน์มาก ๆ ครับ เพราะมีประสบการณ์ของหลายคนแชร์กันอยู่ในนี้ ผมก็ได้ข้อมูล และเพื่อนหลายคนมาจากที่นี่เลยครับ)
http://www.jref.com/forum/studying-japan-181/ (อันนี้เป็นเว็บบอร์ดของคนต่างชาติที่อยากไปเรียนญี่ปุ่นครับ แนะนำให้เข้าไปลองอ่านดูนะ)

หนทางการเข้าสู่ Tokyo Institute of Technology พร้อมทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (3)

หลังจากส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้วก็ "รอ" และ "ลุ้น" ครับ

Process ที่เกิดขึ้นคือทางมหาลัยเค้าก็จะ Screen Document เรารอบแรกก่อนว่าผ่านมั้ย ซึ่งถ้าผ่าน เราก็จะได้รับการติดต่อจากอาจารย์ที่ปรึกษาเราเพื่อนัดวันสัมภาษณ์ครับ

เริ่มแรกก็จะเป็นการนัดวันเพื่อ Test Internet connection ก่อนครับว่าโอเคมั้ย เพราะจะเป็นการสัมภาษณ์ผ่าน Skype แนะนำให้หาสถานที่ที่เน็ตเร็ว ๆ นิ่ง ๆ ครับ หลังจาก Test เรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้รับอีเมลล์แจ้งวันเวลาสัมภาษณ์จริงครับ ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 20-30 นาที

วันสัมภาษณ์จริงนี่ก็ตื่นเต้นมากครับ เพราะเปิดขึ้นมามีอาจารย์นั่งกันอยู่ 5 คน ! -*- แถมตอนนั้นสัญญาณ เน็ตผมก็ไม่ค่อยดี ทำให้เสียงมันอู้อี้ ๆ ฟังยากเข้าไปใหญ่ (ถึงได้บอกว่าหาที่อินเตอร์เน็ตดี ๆ นิ่ง ๆ นะครับ ฮ่า ๆ) โดยการสัมภาษณ์ของเราก็จะแบ่งเป็น 3 ส่วนครับ (อันนี้อาจารย์จะแจ้งให้ทราบอยู่แล้ว) คือ 1. โปรเจ็คจบตอนป.ตรีของเรา 2. Study plan ที่เราส่งไป เราจะไปทำวิจัยเรื่องอะไร และ 3. คือความรู้พื้นฐานในสาขาของเราครับ

อันแรกโปรเจ็กจบตอนป.ตรีของเรา ก็อธิบายไปตามปกติครับ เตรียมสคริปต์ไว้เลยก็ได้ เพราะเค้าจะไม่อนุญาตให้ใช้ power point หรืออะไรทั้งนั้นครับ ให้ใช้ปากอธิบายอย่างเดียว เสร็จแล้วกรรมการก็จะยิงคำถามรัว ๆ ครับ แต่มันเป็นงานเรา น่าจะโอเค ส่วนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

อันที่สองคืองานวิจัยที่เราตั้งใจจะไปทำที่นู่น อันนี้ก็เตรียมสคริปต์ไว้ได้เลยครับ แต่อยากให้เตรียมตัวดี ๆ เพราะหลังจากพูดจบ ก็จะโดนปืนกลชุดใหญ่อีกชุดนึงครับ ครั้งนี้จะหนักกว่าอันแรก เพราะเราก็ยังไม่ได้ทำ ตอนผมโดนงี้เงิบไปหลายดอกเหมือนกัน เพราะโดยส่วนตัวผมไม่เคยทำงานวิจัยมาก่อนเลย ตอนนั้นโดนถามว่า Problem Domain ของคุณคืออะไร ในใจก็คิด "ชิบหายละ มันคืออะไรวะ ไม่รู้จัก" สุดท้ายก็แถกันไปสุดฤทธิ์ -*-

อันที่สามคือความรู้พื้นฐานครับ ซึ่งก็พื้นฐานจริง ๆ ไปทบทวนความรู้ของตัวเองมาหน่อยก็จะดี ไม่ยากมากครับ อย่างผมสมัครไปเรียน Computer Science ก็จะโดนคำถามพวก Automata คืออะไร, DFA กับ NFA ต่างกันยังไง, Compiler กับ Interpreter ต่างกันยังไง, OS คืออะไร อะไรทำนองนี้แหละครับ คือมันพื้นฐานมาก แต่อาจจะลืมกันไปหมดแล้ว ก็ไปรื้อฟื้นกันหน่อยครับ

หลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้วก็ "รอ" และ "ลุ้น" อีกเหมือนเดิมครับ แล้วมาดูต่อโพสต์หน้าว่าทำยังไงต่อ เย่ !

>>> หนทางการเข้าสู่ Tokyo Institute of Technology พร้อมทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (4) <<<

หนทางการเข้าสู่ Tokyo Institute of Technology พร้อมทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (2)

มาต่อกันที่การสมัครเข้าโปรแกรมนี้นะครับ

URL : http://www.titech.ac.jp/english/graduate_school/international/graduate_program_a/

ลิ้งค์ด้านบนเป็นเว็บไซต์หลักของโปรแกรมเราครับ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ในนี้ เข้าไปลองอ่านคร่าว ๆ ดูก่อนได้ครับ

สำหรับกำหนดการคร่าว ๆ โปรแกรมนี้จะเริ่มรับสมัคร ตั้งแต่ช่วงเดือน สิงหาคมไปจนถึงต้นเดือนธันวาคมครับ แต่เนื่องจากเอกสารที่ต้องเตรียมมีค่อนข้างเยอะ เลยอยากให้เผื่อเวลากันเยอะ ๆ ครับ (ผมเตรียมตัวล่วงหน้าเกือบปี -*-)

เมื่อตัดสินใจว่าจะสมัครแน่ ๆ แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องทำส่วนที่สำคัญและยากที่สุดของการสมัครในครั้งนี้ครับ คือการ "หา Advisor"

ปกติถ้าเป็นมหาลัยแอบอเมริกาอะไรแถบนั้นเราจะเข้าไปในมหาลัยก่อน แล้วเรื่องอาจารย์ที่ปรึกษาค่อยว่ากัน แต่ที่ญี่ปุ่นจะเป็นลักษณะนี้ครับ คือเราต้องหาอาจารย์ที่ปรึกษาให้ได้ก่อน ถึงจะมีสิทธิสมัครเข้าไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย ผมเลยบอกว่ามันสำคัญที่สุดเพราะถ้าไม่มีอาจารย์ตอบรับเรา ก็จะไม่มีสิทธิ์สมัครเรียนครับ

โดยเริ่มแรกแนะนำให้เข้าไปดูตามเว็บไซต์ของคณะ / ภาควิชาที่เราสนใจ ส่วนใหญ่จะมีลิสต์ของอาจารย์และหัวข้อวิจัยไว้ให้ เราก็ไปเลือกอันที่สนใจดูครับ หรือจะดูจาก ลิ้งนี้ก็ได้ครับ (เป็นของปี 2015 นะ)

URL : http://www.titech.ac.jp/english/graduate_school/international/graduate_program_a/pdf/listoffaculties_2015a.pdf

หลังจากที่ได้อาจารย์ที่เราสนใจจะทำงานวิจัยด้วยแล้วก็ให้ส่งอีเมลล์ไปแนะนำตัวและติดต่อดูครับ ว่าเราสนใจจะเข้าเรียนที่นี่ บลา บลา บลา ก็ว่าไป ซึ่งโดยปกติอาจารย์ท่านก็จะขอดูประวัติเราคร่าว ๆ พร้อมกับสิ่งสำคัญอีกอย่างนึงคือ "Study Plan" ครับ ซึ่งเราก็ต้องเขียนเสนอไปว่าเราไปเรียนที่นู่นจะทำงานวิจัยเรื่องอะไร ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนจะประสบปัญหาไม่รู้จะเขียนอะไร เพราะอย่างผมไม่เคยมีประสบการณ์การทำวิจัยมาก่อน ก็เลยเครียดอยู่พักใหญ่ ๆ แล้วก็ใช้วิธีไปหาพวกเปเปอร์ที่เกี่ยวกับสาขาที่เราสนใจมานั่งอ่านดูครับ อ่านเยอะ ๆ จนพอได้ไอเดียแล้วก็ค่อยเริ่มเขียนครับ

สิ่งนึงที่อยากให้เตรียมใจไว้คืออาจารย์ท่านอาจจะ "ตอบ" หรือ "ไม่ตอบ" อีเมลล์เราก็ไม่รู้ครับ เพราะเคยได้ยินมาว่าอาจารย์จะได้รับอีเมลล์กันเยอะมาก ๆ จนบางครั้งก็ไม่ได้เปิดอ่านเลยด้วยซ้ำ อย่างตอนที่ผมส่งอีเมลล์ไปตอนแรกท่านก็ไม่ตอบมาครับ เลยเปลี่ยนส่งไปหาอาจารย์อีกคนนึงแทน ก็ไม่ตอบอีก -*- สุดท้ายเลยได้เพื่อนที่เรียนอยู่ที่นั่นช่วยติดต่อให้ครับ แต่อย่างรุ่นน้องที่รู้จักกันส่งเมลล์ไปหาอาจารย์ที่นู่น วันเดียวเค้าก็ตอบกลับมาเลยนะ อันนี้แล้วแต่ดวงจริง ๆ ครับ

ขออนุญาตวาร์ปไปหลังจากตอนที่ได้รับการตอบรับจากอาจารย์เรียบร้อยแล้วนะครับ (จริง ๆ อาจจะใช้เวลานานหน่อย และควรติดต่อล่วงหน้านาน ๆ นะ) ต่อไปก็ต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ครับ เยอะแยะมากมาย หลัก ๆ จะมี Study plan, Recommendation จาก อาจารย์ที่ปรึกษาตอนป.ตรี/คณบดี, แล้วก็คะแนนสอบภาษาอังกฤษครับ (TOEIC, TOEFL, IELTS อะไรได้หมดครับ ไม่มีกำหนดคะแนนขั้นต่ำ) แล้วที่เหลือก็เอกสารยิบย่อยครับ ดูได้จากเว็บไซต์ด้านบนนะ

สำหรับตัว Recommendation Letter จากอาจารย์ที่ปรึกษาและคณบดี แนะนำให้รีบจัดการแต่เนิ่น ๆ ครับ เพราะอาจจะใช้เวลานาน

หลังจากรวบรวมเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งไปรษณีย์ไปที่มหาลัยเลยครับ แล้วโพสต์ต่อไปมาดูกันว่าต้องทำยังไงต่อ

>>> หนทางการเข้าสู่ Tokyo Institute of Technology พร้อมทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (3) <<<

หนทางการเข้าสู่ Tokyo Institute of Technology พร้อมทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (1)

วันนี้อยากจะมาเขียนไกด์ไลน์สั้น ๆ สำหรับคนที่สนใจไปเรียนต่อปริญญาโทที่ Tokyo Institute of Technology (Tokyo Tech, TiTech, Tokodai) พร้อมด้วยทุนรัฐบาลญี่ปุ่นครับ เพราะโดยส่วนตัวตอนนั้นผมก็ได้รับความช่วยเหลือจากรุ่นพี่หลาย ๆ คนช่วยตอบคำถามให้ เลยคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับทุกคนครับ

ก่อนอื่นขอเล่าคร่าว ๆ ว่าวิธีการที่เราจะได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น หรือที่เราคุ้นหูกันว่า ทุนมงบูโช นั้นมีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ด้วยกันครับ (เท่าที่ผมรู้นะ)

1. สมัครสอบกับสถานทูต
2. สมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรง (University Recommendation)

กรณีแรก เป็นการไปสอบข้อเขียนแข่งขันกับคนอื่น ๆ ครับ ซึ่งเมื่อผ่านแล้ว เราก็จะเหมือนกับได้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นโดยที่สถานทูตเป็นคนรับรองให้ จากนั้นก็ไปสมัครมหาวิทยาลัยต่อไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องไปเป็น Research Student ก่อน 6 เดือน - 2 ปี แล้วค่อยสมัครสอบเข้าปริญญาโทครับ
URL : http://www.th.emb-japan.go.jp/th/jis/study.htm

กรณีที่สอง เป็นการสมัครกับมหาวิทยาลัยที่เราสนใจโดยตรงครับ อย่างที่ผมสมัครจะเป็นการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยและทุนการศึกษาไปด้วยในตัว คือถ้าเราผ่านการคัดเลือกเนี่ย ทางมหาลัยจะยื่นเรื่องทุนการศึกษาให้ทั้งหมดครับ และกรณีผมคือเข้าไปเรียนปริญญาโทเลยครับ (ไม่ต้องเป็น Research Student) อีกอย่างนึงที่สำคัญคือโปรแกรมนี้ไม่ต้องสอบข้อเขียนครับ คือยื่นเอกสารไปแล้วก็สอบสัมภาษณ์อย่างเดียว :D

ซึ่งแน่นอนครับกรณีที่ผมจะมาเล่าให้ฟังเป็นแบบที่ 2 เนื่องจากเคยไปสอบของสถานทูตมาแล้ว ไม่ไหวครับ -*- เพราะต้องมีสอบวิชาพวก Math, Physics, Chem ไรพวกนี้ด้วย ซึ่งลงหม้อไปตั้งแต่จบ ปี 1 แล้ว จะให้ไปทวนมาสอบนี่ก็ไม่ไหวครับ เพราะข้อสอบก็ไม่ได้ง่ายเลย แถมแต่ละคนที่ไปสอบนี่ก็โหด ๆ ทั้งนั้น เลยบายดีกว่า

สำหรับการสมัครผ่านมหาวิทยาลัยโดยตรงเนี่ย ผมมองว่าคนรู้ไม่มากนัก เพราะเค้าไม่ได้ประกาศอะไรใหญ่โต อีกทั้งแต่ละมหาวิทยาลัยก็มีโปรแกรมแตกต่างกันอีกครับ เพราะฉะนั้น ก็ต้องไปดูว่ามหาลัยที่เราสนใจมีเปิดโปรแกรมแบบนี้รึเปล่า ส่วนตัวผมก็รู้จักโปรแกรมนี้จากเพื่อนที่เรียนอยู่ครับ

เนื่องจากกลัวมันจะยาวเกินไป ขออนุญาตเล่าถึงการสมัครในโพสต์ต่อไปนะครับ ^^

>>> หนทางการเข้าสู่ Tokyo Institute of Technology พร้อมทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (2) <<<