Sunday, April 27, 2014

วันที่อาม่าเข้าโรงบาล

เมื่อเช้าตื่นมานั่งเล่นคอมได้สักพัก กำลังงัวเงีย ๆ อยู่ แม่ก็โทรขึ้นมาหาจากชั้นล่างของบ้าน

"เอ็ม ลงมาช่วยอุ้มอาม่าหน่อย อาม่าล้ม แม่อุ้มคนเดียวไม่ไหว"

ผมก็รีบวิ่งลงไปห้องครัวชั่้นล่างด้วยความตกใจสุดขีด เจออาม่านั่งกองอยู่กับพื้นด้วยท่าทีหมดแรง

ผมกับแม่ช่วยกันประคองอาม่าขึ้นมาแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้นอนด้วยความทุลักทุเล ถามไปถามมา อาม่าบอกว่ายืนไม่ได้ เหมือนบ้านมันยุบลงไป ผมเลยเข้าใจเอาเองด้วยความรู้ทางด้านการแพทย์เป็นศูนย์ว่าน่าจะเกิดจากกล้ามเนื้อมันอ่อนแรงอะไรสักอย่างนี่แหละมั้ง

อาม่าบอกว่าเจ็บตรงสะโพกด้านซ้าย ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ก็บอกว่าขอนั่งพักสักพักนึงก่อน

ผมก็รีบวิ่งขึ้นไปหยิบโทรศัพท์บนห้องนอนเพื่อไลน์บอกพี่น้องในครอบครัวที่ออกไปทำธุระข้างนอกกันหมดแล้ว

ทุกคนตอบรับด้วยความตกใจ ใครที่สละงานตรงหน้าอยู่ได้ ก็รีบพุ่งหน้ากลับบ้านมาหาอาม่ากันหมด แล้วเสียงโทรศัพท์แม่ก็ดังไม่ขาดสาย เล่นเอาอาม่างงว่า ไอพวกนี้มันรู้เรื่องกันได้ยังไง ?

ตอนแรกอาม่าจะไม่ยอมไปหาหมอ เพราะกลัวต้องนอนโรงบาล อาม่าไม่ชอบ อีกอย่าง อาทิตย์หน้าจะถึงงานแต่งงานของหลานสาวแล้ว อาม่าไม่อยากพลาด

ทุกคนช่วยกันเกลี้ยกล่อมอยู่สักพักจนอาม่ายอมไป พี่สาวผมเลยจัดแจงโทรแจ้ง ศูนย์นเรนทร 1669 รถพยาบาลให้มารับ รออยู่สักครึ่งชั่วโมง รถพยาบาลก็เปิดหวอลั่น วิ่งมาจอดหน้าบ้าน

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามพาอาม่าขึ้นรถพยาบาลไป เพื่อนบ้านละแวกนั้นทั้งใกล้ทั้งไกล ก็วิ่งมาที่บ้านด้วยความเป็นห่วง ถามว่าใครเป็นอะไร เป็นมากมั้ย แม่และพี่สาวต้องคอยตอบว่า "อาม่าล้มหลังบ้าน ไม่เป็นไรมาก" กันอยู่นานเลยทีเดียว

-----

พอไปถึงโรงพยาบาล คุณพยาบาลก็จัดแจงเอกสารมาให้เซ็น พร้อมกับแจ้งว่า อาม่า

"กระดูกสะโพกหัก"

คุณพยาบาลบอกให้นอนพักรักษาตัวที่นี่ก่อน เนื่องจากต้องรอคุณหมอกระดูกเข้ามาดูว่าจะรักษายังไง เนื่องจากอาม่าอายุเยอะแล้ว และเป็นโรคความดันเบาหวาน การผ่าตัดอาจจะเสี่ยง

คุณพยาบาลถามว่าจะให้อาม่าอยู่ห้องรวมตามสิทธิ์บัตรทอง หรือว่าจะให้อยู่ห้องพิเศษ ซึ่งต้องเพิ่มเงินคืนละ 2700, 2800, 3200

นั่นเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอสมควรสำหรับบ้านผมซึ่งมีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำได้รวยอะไร ตอนนั้นก็เลยคุยกันว่า ให้อาม่าอยู่ห้องรวมก่อน แล้วเดี๋ยวยังไงญาติมาครบค่อยว่ากัน

ลักษณะของห้องรวมคือคนไข้อยู่กัน 10 เตียง แต่ละคนก็ป่วยหนักกันทั้งนั้น อากาศค่อนข้างร้อนมาก ไม่มีที่นั่งสำหรับญาติ และจำกัดเวลาในการเยี่ยมต่อวัน

พอญาติ ๆ มากันครบก็คุยกันว่าอยากให้อาม่าไปอยู่ห้องพิเศษ พี่สาวคนโตบอกว่า

"ทนเห็นอาม่าอยู่แบบนี้ไม่ได้จริง ๆ เงินน่ะ เดี๋ยวก็หาใหม่ได้ แต่นี่ช่วงชีวิตสุดท้ายของอาม่าแล้วนะ จะให้อยู่แบบนั้นหรอ"

สรุปก็ได้ย้ายอาม่าไปอยู่ห้องพิเศษ แล้วก็ผลัดเวรกันกลับบ้าน โดยให้น้องสาวคนเล็กนอนเฝ้าอาม่าหนึ่งคืน

ยังไม่รู้ว่าหมอจะรักษายังไง จะต้องนอนโรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่ และหลังจากนี้อาม่าจะกลับมาเดินเป็นปกติได้มั้ย

-----

สิ่งที่ผมรู้สึกในวันนี้...
- โชคดีที่อาม่าไม่เป็นอะไรหนักมากกว่านี้...
- ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก...
- ชีวิตคนเราไม่แน่นอน คนที่อยู่กับเรามาตลอดชีวิต จะจากเราไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตอนที่ยังอยู่ด้วยกัน ต้องรักกันให้มาก ๆ...
- กว่าเราจะเก็บเงินมาได้เท่านี้ มันอาจจะเหนื่อยก็จริง แต่ยังไงเราก็ยังหาใหม่ได้ แต่ชีวิตคนสำคัญของเรา หายไปแล้วหาใหม่ไม่ได้อีกแล้ว...